ความหมายที่แท้จริงของคำว่า… “ดีใจด้วยนะ”

“ดีใจด้วยนะ” หลายๆ คนอาจเคยได้ยินได้ฟังเพลงนี้กันมาบ้างแล้ว หลังจากเราไล่ตามอ่านคอมเม้นท์ของคนที่ดูเอ็มวีนี้จบ มีหลายคนเหมือนกันนะที่รู้สึกอินไปกับเพลงราวกับว่าเพลงกำลังเล่าเรื่องราวของฉันอยู่อย่างไงอย่างงั้น

บางคนก็สงสัยเอ๊ะ! เราสามารถดีใจให้กับคนรักเก่าของเราได้จริงหรอ? พอมีโอกาสเลยชวน “อิ้งค์ วรันธร” เจ้าของเพลงมาขยายความหมายของคำว่า “ดีใจด้วยนะ” จริงๆ แล้วคือความรู้สึกที่ดีใจกับเขาจริงๆ หรือ เป็นคำที่แฝงไปด้วยความเจ็บปวดกันแน่

“ดีใจด้วยนะ” ความหมายที่แท้จริงแล้วมันคืออะไร
มันก็คือความดีใจที่ตามมาหลังจากความเจ็บปวด ที่ได้เห็นคนที่เรารักมีความสุขกับคนรักใหม่ไปแล้ว แต่สวนทางกับตัวเราที่ยังไปต่อแบบเค้าไม่ได้สักที ความรู้สึกแรกมันก็เสียใจที่คนคนนั้นไม่ใช่เรา แต่พอคิดดูจริงๆมันก็คงดีแล้วแหละที่เค้ามีชีวิตที่ดีขึ้น มีความสุขขึ้นโดยที่ไม่มีเราแล้ว



ดีใจในวัยเด็กของอิ้งค์คือเรื่องอะไร

ดีใจแบบกระโดดโหย๋งๆเลยก็คือตอนที่แม่มารับกลับจากโรงเรียน เพราะเป็นเด็กขี้แยมากๆ(ตอนนี้ก็ไม่ได้น้อยลงนะ) ร้องไห้ทุกเช้าก่อนไปโรงเรียนยันป.2 รู้สึกทุกข์ใจมากกับการห่างพ่อแม่ พอเลิกเรียนก็จะมายืนรอแม่ที่ประตูห้องเรียนทุกวัน รอแม่มารับ พอเห็นเงาแม่จากไกลๆก็จะดีใจมาก กระโดดโลดเต้น รีบไปหยิบกระเป๋าสวัสดีคุณครูแล้ววิ่งไปหาแม่ เป็นความรู้สึกที่ดีใจชัดที่สุดในช่วงวัยเด็กน้อยแล้ว แต่ดีใจเรื่องอื่นก็เยอะนะ ประกวดร้องเพลงได้รับรางวัล ได้แต่งตัวเป็นตัวการ์ตูนที่เราชอบแล้วขึ้นเวทีไปร้องเพลง ก็ดีใจสุดๆเหมือนกัน



แล้วตอนนี้คือเรื่องอะไร

รู้สึกว่ากลายเป็นคนดีใจกับอะไรยากขึ้นเรื่อยๆ การดีใจทุกวันนี้มันไม่ใช่ดีใจแบบกรี๊ด ดีใจสุดๆ แต่มันเป็นการดีใจที่พอคิดแล้วยิ้มได้จากผลการกระทำของเรา ดีใจที่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบอยู่ตลอด ดีใจที่มีคนมีความสุขเพราะสิ่งที่เราทำ มีคนเห็นคุณค่าของงานเรา แค่นี้ก็ดีใจแล้วค่ะ



เพลงนี้มันเป็นความเศร้าแบบไหน

เศร้าแบบยังมีมุมที่ยิ้มได้ในมุมที่ไม่ควรจะยิ้มได้ จริงๆเวลาที่เราเลิกกับแฟนเก่าไป มันอาจจะเกิดปัญหาที่เราไปต่อกันไม่ได้ แต่ไม่ได้แปลว่าเรื่องที่ผ่านมาก่อนหน้านั้นมันไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดี มันล้วนมีเรื่องดีๆอยู่เต็มไปหมด เวลาที่เราเห็นเค้ามีความสุขอีกครั้งและผ่านความเศร้ามาได้ เราก็แค่ยินดีกับความสุขของเขาในปัจจุบันเท่านั้นเอง



สมมติความเศร้ามี 10 เลเวล เพลงนี้อยู่ในเลเวลที่เท่าไหร่

เลเวล 7 ละกัน ฮ่าๆ มันคือความเศร้าที่ปนความดีใจมาอีก 3แต้ม

เอ็มวีนี้เป็นครั้งแรกที่ไม่ได้เดินเรื่องเอง
ใช่เลย เป็น MV ที่นัดกองเย็นและถ่ายทำใช้เวลาน้อยที่สุดแล้ว ฮ่าๆ แต่สนุกดีนะคะ ก็มีส่วนร่วมและอยู่กับเพลงและ MV มาตั้งแต่แรกจนตัดเสร็จเหมือนเดิม แค่เราไม่ได้เป็นคนแสดงถ่ายทอดเอง ก็แอบตื่นเต้นเหมือนกันนะ เพราะว่าพอมีคนอื่นที่ไม่ใช่เรามาแสดงก็อาจจะทำให้คนฟังคนชม MV รู้สึกตามไปอีกแบบนึงแบบที่เพลงอิ้งค์ไม่เคยทำมาก่อน

ปกติจะเห็นอิ้งค์ไม่เดิน ก็วิ่งในเอ็มวี แต่เพลงนี้นั่งอยู่เฉยๆ อยากแซวอะไรตัวเองไหม
อดน้ำหนักลงเลยสินะเพลงนี้ ปกติถ่าย MV ทุกเพลงเสร็จ พอตื่นเช้ามาช่างน้ำหนักจะลงไป 1กิโลกรัม อันนี้นั่งแปปเดียว แถมกินเยอะอีก เวลาพักเยอะ :)))

ซีนไหนในเอ็มวีที่รู้สึกว่า “หูยทำไมเศร้าจัง”
ซีนที่พระเอกนางเอกคุยโทรศัพท์กันแล้วร้องไห้ จริงๆเชื่อว่าหลายๆคนต้องเคยคุยกับแฟนเก่าของตัวเอง แล้วมันเหมือนแบบเพื่อนสนิทที่สุดในช่วงหนึ่งที่ไม่ได้คุยกันนาน แล้วได้กลับมาคุยกัน แล้วมักจะค้นพบว่า ทำไมเค้าเข้าใจเราทุกอย่างขนาดนี้ ต่างคนต่างเล่าเรื่องของตัวเองให้ฟัง แล้วเราก็รู้สึกดีใจกับสิ่งที่เค้าพบเจอจริงๆ แต่สุดท้ายมันก็ได้เท่านั้นจริงๆแหละ ก็อาจจะมีแว๊บนึงในใจที่เราอยากให้ตอนนี้เรายังคบกันเหมือนเดิม มันคงจะมีความสุขดีนะ แต่สุดท้ายก็เป็นไปไม่ได้หรอก ต่างคนก็ต่างต้องเดินต่อไปในจุดของตัวเอง



ฝากให้กำลังใจคนที่เริ่มต้นใหม่ไม่ได้หน่อย

ไม่ต้องพยายามลืมใครสักคนหรอก เพราะยังไงเราก็ไม่มีทางลืมเขาได้อยู่ดี แต่เราเลือกที่จะมองสิ่งที่ทำให้เราเดินต่อไปได้ดีกว่า เก็บสิ่งดีๆมาเป็นกำลังใจ วันนี้เราอาจจะยังไม่พบความสุขโดยที่ไม่มีเขาอยู่ แต่ในวันข้างหน้าความเศร้าทุกอย่างมันจะจางหายไปเอง เวลาจะทำให้เราดีขึ้นเอง

อยากบอกอะไรกับคนฟังเพลงหรือคนที่ติดตามผลงานเราอยู่
เพลงนี้เป็นเพลงที่พูดถึงมุมมองความรักของอิ้งค์จริงๆ ตั้งใจถ่ายทอดให้ทุกคนได้ฟัง อยากให้ทุกคนชอบ ขอบคุณมากที่ติดตามกันมาตลอด โดยเฉพาะเวลามีคนเขียนมาให้กำลังใจอยากให้รู้ว่าทุกๆข้อความอิ้งค์อ่านหมดจริงๆ แล้วมาช่วยร้องเพลงนี้กันให้ดังๆ นะคะ

เจอกันค่าาา :)))

***

Scroll to Top