วาเลนไทน์…ที่มีทั้งเรื่องรักและเรื่องเศร้า

ไม่ว่าจะผ่านมากี่วาเลนไทน์ แต่เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะเคยอินไปกับเรื่องราวของความรักและความเศร้าในแบบที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของคนรอบตัว เพลงที่เคยได้ยิน หรือหนังที่เคยได้ดู วันนี้เราจึงชวน 5 ศิลปิน “Portrait , Ink waruntorn , O Pavee , Bean Napason, Fai Patthaya” มาแนะนำ “หนังและเพลง” ที่พวกเขาอยากชวนให้ทุกคนมาอินไปด้วยกัน

หนังรัก “ซีรีส์ How I met your mother”

เป็นซีรีส์ที่พูดถึงความสัมพันธ์ของเพื่อนกลุ่มหนึ่ง ที่ดูเผินๆจะเป็นซีรี่ส์ตลกสนุกสนาน แต่เนื้อในนั้นสอดแทรกความสัมพันธ์ทั้งหวานขมของมนุษย์เราในทุกๆด้านเอาไว้อย่างแนบเนียน ไม่ว่าจะเป็นความเป็นเพื่อน ความเป็นครอบครัว ความรักหนุ่มสาวในหลากหลายมุม สำหรับผมมันเป็นซีรีส์ที่รวมทั้งความหวานและความขมของความรักไว้ได้ครบถ้วนและกินใจที่สุด มีทั้งหมด 9 season ผมดูไป 4 รอบแล้ว

เพลงรัก

หนังเศร้า “Cast Away”

ชายคนหนึ่งประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตก ทำให้ต้องไปใช้ชีวิตอยู่บนเกาะกลางทะเลเพียงคนเดียวเป็นเวลา 4ปี หนังทำให้เราตื่นตาตื่นใจกับการเอาตัวรอดของ Tom Hanks บนเกาะกลางทะเล แต่สิ่งที่สะเทือนใจผมที่สุดคือ 20นาทีสุดท้ายของหนัง เป็น 20นาทีที่เปลี่ยนทัศนคติเรื่องความรักของผมไปตลอดกาล

เพลงรัก

ไม่มี ไม่ชอบฟัง

เพลงเศร้า “เวลาไม่ช่วยอะไร – คริสติน่า”

เอาจริงๆ เลือกไม่ได้เพราะฟังเยอะมาก แต่ที่ชอบตอนนี้ น่าจะเป็น เวลาไม่ช่วยอะไร ของ คริสติน่า อากีล่าร์ มันเหมาะกับบรรยากาศความเศร้าในวันวาเลนไทน์

/////

หนังรัก “About time”

ชอบหนังเรื่องนี้มาก ที่สำคัญ ชอบเพลงประกอบมากๆ ตอนดูไปก็อมยิ้มไป ชอบที่เค้าพูดถึงเรื่องเวลาและการทำปัจจุบันของเราให้ดีที่สุด

หนังเศร้า “Eternal sunshine of the spotless of mind”

พล้อตเรื่องจี๊ดมาก เอาเรื่องความรักมาพูดได้ธรรมชาติและจริง ถ้าเรารักใครไปแล้ว แสดงว่าต้องมีบางอย่างที่ดึงดูดเราให้เข้าหา ต่อให้วันนึงเราไม่รักกันแล้ว แล้วพยายามลบเรื่องของใครคนนั้นออกไป แต่ถ้าเราได้พบกันใหม่ เราก็ยังจะรักเค้าอยู่ดี



เพลงรัก “How long will I love you – Ellie Goulding”

เคยชอบเพลงนี้มากๆ นานมาแล้วหลังจากดู about time จบ พอได้มาค้นตัวเองเรื่องที่ข้างบนถามถึงหนังรัก ก็เลยทำให้ได้กลับมาค้นแล้วพบว่ามันยังคงเป็นเพลงรักที่ฟังแล้วน้ำตาไหลได้ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไมถึงฟังเพลงนี้แล้วเศร้า คงเพราะเป็นเพลงที่มีความหมายในช่วงเวลานึงของอิ้งค์มากๆ

เพลงเศร้า “Valentine’s day – Lany”

สำหรับคนที่เศร้าเรื่องแฟนเก่า จริงๆเราควรมอบโอกาสให้ตัวเองได้ออกจากความเศร้าได้แล้ว เป็นกำลังใจให้คนที่กำลังเศร้าในวันแห่งความรัก แต่ถ้ายังลืมเขาไม่ได้ ก็ให้กำลังใจตัวเองไว้ว่ามันคงมีวันนึงที่เราจะไม่รู้สึกอะไรกับเค้าได้สักวัน

/////

หนังรัก “ปิดเทอมใหญ่…หัวใจว้าวุ่น”

เพราะเป็นหนังที่ชอบมากเพราะรู้สึกถึงความอบอุ่นของหนัง หนังถ่ายทอดมุมมองแต่ละอย่างของความรักได้ดีมากๆ

หนังเศร้า “fake…โกหกทั้งเพ”

เป็นหนังทีชอบมาก ดีมากเรื่องหนึ่ง ไม่อยากเล่าไปดูเอง



เพลงรัก “พอ – O Pavee”

เพราะเป็นเพลงรัก เพลงแรกที่ผมเขียน

เพลงเศร้า “พยายาม – O Pavee”

เพราะมันเกิดจากหนังเรื่อง Suckseed ห่วยขั้นเทพ ผมดูฉากนึงแล้วมันโดนความรู้สึกมาก ฉากนั้นเศร้ามากเลยเขียนเป็นเพลงนี้

/////

หนังรัก “Love Rosie”

รักนางเอกของเรื่องนี้มาก Lily Collins เป็นอีกหนึ่งนักแสดงโปรดของบีน และสำหรับหนังเรื่องนี้ในฉากอารมณ์ต่างๆ เธอก็เล่นได้กินใจมากๆ รวมถึงเนื้อเรื่องของหนังก็ตรงกับความจริงของชีวิตคนที่อาจจะผิดพลาดไปบ้างในเรื่องของความรัก แต่สุดท้ายถ้าเรายังคงเชื่อมั่นในศรัทธาของความรัก สุดท้ายการรอคอยอาจจะทำให้เราสมหวังในที่สุด

หนังเศร้า “ La La Land ”

ความรักมันอาจจะสวยงามในช่วงแรก แต่เมื่อเงื่อนไขของแต่ละคนนั้นต่างกัน มันอาจจะไปกระทบต่อความสัมพันธ์นั้นได้ หนังเรื่องนี้สะท้อนความจริงหลายอย่าง ทั้งความรัก ความฝัน ในความคิดของบีน บีนคิดว่าหนังเรื่องนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เศร้ามากๆเลย การดำเนินเรื่องของนักแสดง บทของตัวละคร และสีของภาพ รวมถึงเพลงในหนัง บีนเชื่อว่าต้องมีหลายคนที่เสียน้ำตาให้กับหนังเรื่องนี้แน่นอน

เพลงรัก “อย่าสัญญา(Don’t Promise) – ธาริณี ทิวารี”

อีกหนึ่งเพลงรักที่บีนรู้สึกว่าตรงกับคู่รักหลายๆคน บางคนอาจจะต้องการให้คนรักสัญญาสิ่งต่างๆมากมายกับตนเอง แต่บางครั้งคำพูดอาจจะไม่สำคัญอีกต่อไป ถ้าการกระทำและความรู้สึกที่มีให้กันยังคงเหมือนกับวันแรกที่ได้รู้จัก บีนคิดว่า ความเข้าใจกันและกัน เชื่อมั่นในกันและกัน คือสิ่งสวยงามที่สุดในความรัก

เพลงเศร้า “วันนี้เมื่อปีก่อน(Today, Last Year) – Moderndog”

บางครั้งเวลาก็เปลี่ยนความคิดถึงที่เรามีให้ใครสักคนเป็นได้แค่การนึกถึงเท่านั้น ถ้าเพลงที่บีนรู้สึกฟังกี่ครั้งก็ทำให้เศร้าก็คงเป็นเพลงของพี่ป้อดเพลงนี้ หลายๆคนคงมีคนที่เรานึกถึงเขาคนนั้นอยู่ตลอด ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์นั้นอาจจะจบลง และเมื่อเวลาที่เรานึกถึงเขาคนนั้น ก็ปล่อยความคิดให้นึกถึง แต่สุดท้ายก็คงเหมือนกับสายลมที่ผ่านมาและผ่านไป

/////

หนังรัก “About time”

เป็นคนชอบดูหนังที่ให้แรงบันดาลใจ ดูจบแล้วหัวใจพองโต หรือยิ้มแบบไม่รู้ตัว About time เป็นหนังเรื่องแรกๆเลยที่ถ้ามีคนถามว่าชอบหนังเรื่องไหนและเรื่องไหนที่ให้แรงบันดาลใจ ก็คงตอบว่าเป็นเรื่องนี้อันดับต้นๆ มีผกก.คนเดียวกันกับเรื่อง Love Actully (เป็นหนังรักอีกเรื่องที่ดูบ่อยมาก)

หนังไม่ได้พูดเกี่ยวกับความรักของผู้หญิงผู้ชาย อย่างเดียว หนังพูดถึงความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว พ่อ พี่น้อง ซึ่งให้แง่คิดในการใช้เวลาในการชีวิตเราให้ดีที่สุดในทุกวินาที ในเรื่องพระเอกเป็นคนย้อนเวลากลับไปทำนู่นนี่ได้ แต่สุดท้ายก็รู้ว่า ”ถ้าเราทำทุกวินาทีให้ดี เราก็ไม่จำเป็นต้องย้อนเวลากลับไป” มันทำให้เรานึกถึงทุกๆอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิต มองทุกวันว่าเราทำมันเต็มที่และดีที่สุดแล้วรึยัง 🙂 🙂 🙂

หนังเศร้า “La La Land”

จะบอกว่าเศร้าทั้งเรื่องไหมคงไม่ใช่ เพราะหนังเปิดมาด้วยความสนุกสนาน La La Land ถือเป็นหนังสไตล์ Musical ที่มีทั้งความ Romantic และ Drama ที่ทำให้เราดูแล้วเกิดแรงบันดาลใจ เป็นหนังที่ฝ้ายชอบมากๆเรื่องนึงเลย ทั้งฉาก โทนสี เสื้อผ้า การแสดงออกของนักแสดงผ่านการเต้น Contemporary และ Tap dance ประทับใจมากๆเพราะฝ้ายสนใจการเต้น swing และการเต้นในแนวนี้ด้วยอยู่แล้ว เลยยิ่งอินมากๆ และที่สำคัญคือเพลงแต่งออกมาได้เพราะมากๆ หลักๆจะเป็นเพลง Jazz ฝ้ายชอบเพลง Jazz อยู่แล้ว เลยยิ่งเข้าทาง

ซึ่งในเรื่อง ความฝันของพระเอกคืออยากเป็นเจ้าของบาร์แจ๊ส ส่วนนางเอกอยากเป็นนักแสดง ฉากแต่ละฉากก็เจ๋งมากๆ Style หนังมีความย้อนยุคเหมือนหนัง Hollywood ยุค 50-60 ชอบมากๆจริงๆ คนที่ชอบความ Vintage ที่ผสมกับยุคปัจจุบันน่าจะชอบเหมือนฝ้าย

ตั้งแต่โปสเตอร์ ,Styleหนัง ,บท ,เสื้อผ้า และ stylingต่างๆ ,เพลงประกอบ ยันนักแสดง ถือเป็นหนังที่สร้างแรงบันดาลใจ พอดูแล้วทำให้คิดถึงความฝันกับความเป็นจริงซึ่งบางคนก็มีความฝันกับความเป็นจริงที่ต่างกัน อาจจะจบด้วยความเสียใจแต่มันทำให้เรานึกย้อน กลับไปนึกถึงความเป็นจริง และเข้าใจถึงความเป็นจริง “ถึงบางครั้งมันจะเศร้าเราก็แค่เข้าใจและรับมือกับมัน”

เพลงรัก “Isn’t she lovely – Stevie Wonder”

เป็นเพลงที่ Stevie Wonder แต่งให้ลูกสาว ตอนเกิด ฟังแล้ว Happy มีความสุขมากๆ ทั้งทำนองและเนื้อหาที่พูดถึงความรู้สึกต่อลูกสาว และบรรยายว่าเธอน่ารักยังไง ถ้าเราฟังแบบไม่ได้สนใจความหมายเราก็ยังรู้สึกถึงความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความรักและความรู้สึกดีๆ ผ่านดนตรี ใครที่อยากฟังเพลงแนวย้อนยุคหน่อยและเพลงฟังง่ายสบายๆ แนะนำเพลงนี้เลยค่ะ “Isn’t she lovely”

เพลงเศร้า “บอกฉันก่อน Single ฝ้ายเองงงง”

ทุกคนที่เคยฟังทำนองโดยที่อาจจะไม่ได้ทันฟังเนื้อร้อง อยากให้ไปลองฟังเนื้องร้องกันดู เพราะถึงแม้จังหวะและดนตรีจะดูโยกตามได้ แต่สิ่งที่อยู่ภายในเนื้อหาของเพลงนั้นอาจจะไม่ได้สนุกตามที่เราได้ยิน

เพลงพูดถึงการเปลี่ยนแปลงของใจคน ที่พอเรารู้ว่าคนที่อยู่ข้างๆเราเปลี่ยนแปลงไป เราก็อยากจะให้เขาพูดกับเราตรงๆ เพราะสุดท้ายเราเข้าใจได้
“อย่าเงียบอย่างนี้ไม่ชอบคำถามที่ไม่มีคำตอบ
เหมือนดวงดาวที่เงียบหาย
แม้ความจริงเศร้าแค่ไหนก็ไม่เป็นไร…ก็ไม่เป็นไร…”
“ดอกไม้ไร้ฝนยังทนไหวขอเพียงคำเตือนได้ไหมถ้าเธอจะไป”
เป็นแนวดนตรี Electronic Folk ลองไปฟังกันดูนะค้าา

***