สำหรับผมเป็นครั้งแรกที่ประเทศไต้หวัน ได้ยินชื่อเสียงมาสักพัก หลังๆ เริ่มหนาหูมากขึ้น พอมีโอกาสรีบจัดกระเป๋า
มาด่วนๆเลย ความโดดเด่นของที่ผมว่า เหมือนญี่ปุ่นเล็กๆเลย ค่าครองชีพใกล้บ้านเรามาก ตีไปว่า 1 ต่อ 1
สนุกหละสิทีนี้ เรื่องอาหารก็สบายๆเลยครับ “ถูกและดีไม่ได้มีแค่ในฟู๊ดแลนด์”
และสิ่งที่ผมอยากมาลองมาที่สุดคือ กาแฟ
ที่ไต้หวันถือว่ามีรสนิยมการดื่มกาแฟที่ดี มีร้านกาแฟเจ๋งเยอะมากๆ และผมก็มีเวลาไม่มากนัก งั้นไปแหล่งที่น่าจะมี
หลายร้านเลยไปที่ ครีเอทีฟปาร์ค มีร้านกาแฟหลายร้านแต่ กินไหวแค่ 2 ร้าน เพราะตาเริ่มค้าง กินเยอะไปอาจช็อคได้ ห้าๆๆๆๆ
ร้านแรก Daylight
ร้านเก๋สไตล์ครอบครัว มีอาหาร ขนม ด้วย มีที่นั่งด้านนอกเพื่อสูดอากาศ ชมหนุ่มสาวที่มาเดินกันเพียบ
สั่งไปเลย อเมริกาโน่ ร้อน 1 แก้ว ราคา 85 บาทไต้หวัน
เคาทเตอร์บาร์ สะอาดดี เห็นพิธีกรรมการทำกาแฟแล้วสบายใจได้ว่าโอกาสได้รับสะสารดีมีมากกว่า 90%
บาริสต้ามีปราณีต (ผู้ชาย) เนียนด้วยฝีมือการทำ
พอรับกาแฟมารีบเดินไปนั่งด้านนอก รับลมหนาว จิบกาแฟ จิบแรกหืมมมมม ดีเลย ไม่ไหม้จนเกินไป
มีความเปรี้ยว+หวานช่วงปลาย ถือว่าผ่านเลย กาแฟดีวันนั้นชีวิตจะเริ่มต้นได้ดีเช่นกัน
รายละเอียดเมล็ดไม่ทราบนะครับ แค่เป็นคนชอบกินกาแฟ
ร้านที่สอง Fuji Tree
นอกจากจะเป็นร้านกาแฟแล้ว ยังมีพื้นที่ขายของเก๋ๆอยู่ด้วย ซึ่งร้านนี้มีทั้งเครื่อง Espresso และ Filter Coffee
ผมจึงมุ่งตรงไปยังบาร์เลย มีเมล็ดวางอยู่หลายแบบ เอาแบบที่เราชอบละกัน เมล็ด Ethiopian มีความหอม เปรี้ยว
หวาน แบบเค้าเลย ชัดเจน เป็นหนึ่งเมล็ดที่นิยมดื่มกัน
ร้านนี้บาริสต้าเป็นผู้หญิงที่เท่ห์มาก ใช้วิธีดริปแบบ Chemex ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีการทำกาแฟ ส่วนตัวผมว่าคล้ายๆ
Filter Coffee แต่ใช้กาแช่กาแฟไว้นานกว่า น่าจะได้ความเข้มของกาแฟมากกว่า
ผมยืนดูตั้งแต่บดเมล็ด ใส่ฟิลเตอร์ เท่น้ำร้อน จับเวลา จนมาใส่แก้ว รับกาแฟแก้วนี้ด้วยความรู้สึกดี และคิดว่าอร่อยชัวร์ และมันก็อร่อยจริงๆ รสชาติแบบ Ethiopian ที่ควรจะเป็น บอกได้คำเดียวว่า คอกาแฟมีความสุขที่ร้านนี้แน่นอน มีความสุขที่ไต้หวันด้วยครับ
#อร่อยจนต้องบ็อกซ์ต่อ