ผมโดนถามอยู่เสมอ ทำไมร้องแต่เพลงเศร้า ชีวิตจริงผมรันทดชอกช้ำ เจอแต่เรื่องผิดหวังขนาดนั้นเลยหรือไง
เคลียร์กันตรงนี้ก่อน ถ้าทุกเพลงที่ผมแต่ง มาจากชีวิตจริงของผมเองทั้งหมด ผมคงเป็นบ้าไปแล้วล่ะคุณ นักแต่งเพลงไม่จำเป็นต้องแต่งจากเรื่องของตัวเองเท่านั้น หลายเพลงที่ผมแต่ง เป็นเรื่องของคนรอบข้าง หลายเพลงเป็นเรื่องที่ผมจินตนาการเอง หลายเพลงผมเอาเรื่องตัวเองมาดัดแปลง เพิ่มเติม ให้กลายเป็นอีกเรื่องหนึ่ง สิ่งเหล่านี้เป็นทักษะในการแต่งเพลงที่นักแต่งเพลงทุกคนสามารถทำได้ครับ
แล้วทำไมต้องเพลงเศร้า?
เอาจริงๆผมก็ไม่รู้สาเหตุที่แน่นอนหรอก ผมรู้แค่ว่า ผมชอบฟังเพลงเศร้ามาตั้งแต่เด็กๆ ถ้าให้เลือกร้องคาราโอเกะสักเพลง ผมจะไม่เลือกเพลงสนุกๆ แต่จะเลือกเพลงเศร้าเสมอ ยิ่งเพลงไหนร้องแล้วน้ำตาไหลไปด้วยจะมีความสุขมาก บางคนก็บอกว่าผมประหลาด อาจจะจริงของเขา
ผมมีความเชื่อว่า..
ความเศร้าอยู่กับเรานานกว่าความสุข มันฝังลึกในความทรงจำ สร้างรอยแผลเป็นในใจเราได้ชัดเจนกว่าร่องรอยของความสุข เวลานึกย้อนกลับไปในอดีต เหตุการณ์ที่ผมจะนึกออกเป็นอย่างแรกๆ มักจะเป็นเรื่องเศร้า
ผมเคยคิดอยากจะเอาชนะความเศร้า
อยากจะอยู่เหนือการควบคุมของความรัก พูดง่ายๆคือผมไม่อยากอกหัก อยากจะสร้างทฤษฎี เขียนสมการ เพื่อออกแบบความรักของตัวเอง ผมหมกมุ่นกับสิ่งนี้มาตลอด ผมเก็บข้อมูล ใครอกหักนั่งกินเหล้าร้องไห้ ผมจะเข้าไปคุย ไปฟัง ไปให้คำปรึกษา ผมจะเก็บมาคิด มาเขียน และพยายามจะสร้างเครื่องมือที่จะจับความรักให้อยู่มือ
แน่นอน สุดท้ายแล้วผมเป็นฝ่ายแพ้ ความรักถูกออกแบบมาเพื่อให้เป็นปริศนาอยู่คู่โลกนี้ไปตลอดกาล
“ผมเป็นเพียงมนุษย์ตัวกระจ้อยที่หาญไปท้าทายจักรวาล” แต่ถึงแม้ผมจะทำไม่สำเร็จ สิ่งที่ผมได้มาแทน
ก็คือเพลงทุกเพลงของ Portrait ที่พวกคุณได้ฟังกันนั่นเอง
“ผมจะเขียนเพลงเศร้าต่อไป และหวังว่าคุณก็คงจะชอบฟังเพลงเศร้าของผมต่อไปเช่นกัน”