เรื่องฉันต้องคิดถึงเธอแบบไหน

เราว่าเวลามันผ่านไปเร็วเหมือนกันนะ ตั้งแต่วันที่ปล่อยเพลง ‘เหงาเหงา’ จนถึงตอนนี้ก็ผ่านมาปีนิดๆ แล้ว หลายๆ อย่างในชีวิตเปลี่ยนไปเหมือนกัน เราได้เป็นศิลปินมาปีนึงแล้ว มันเป็นปีที่สนุกมากมาก เจออะไรใหม่ๆ เยอะมาก ปีที่แล้วเราปล่อยซิงเกิลไปสองเพลง คือเพลง ‘เหงาเหงา’ กับ ‘Snap’ เสียงตอบรับของเพลงทั้งสองเพลงดีมาก

ต้องขอขอบคุณทุกๆ คนจากใจจริงๆ ‘เหงาเหงา’ ได้ขึ้นชาร์ทมากมายรวมทั้งเข้าชิงหลายๆ รางวัล ซึ่งมันเกินคาดเรามากๆ เลย ต้องขอบคุณพี่โอ๊ป พี่ยักษ์ พี่เอก ทีมเพลงที่ทำเพลงทุกเพลงประสบความสำเร็จแบบนี้นะคะ รวมถึงพี่พล พี่ปอย และพี่ๆทีมบ็อกซ์ทุกคนด้วย รวมถึงผู้ฟังทุกๆ คน มันเป็นปีแรกที่สนุกมากๆ เลย

มาถึงตอนนี้ซิงเกิลใหม่เราก็ได้ปล่อยไปแล้ว ชื่อเพลงว่า ‘ฉันต้องคิดถึงเธอแบบไหน’ ตอนแรกที่เริ่มทำเพลงนี้ เรามีคอนเท้นท์ในหัวหลายเรื่องเหมือนกัน เรื่องที่เราเอามาเล่าในเพลงนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนของคนสองคน เอาง่ายๆคือคนที่เค้าคุยๆ กันนั่นแหละ


ความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนของคนสองคน
เอาง่ายๆคือคนที่เค้าคุยๆ กันนั่นแหละ

เรานึกเรื่องนี้ออกได้เพราะว่า มีเพื่อนคนนึงชอบมาปรึกษาปัญหาชีวิต ตั้งแต่ไหนแต่ไร มันก็ชอบมีคนมาคุยเรื่อยๆ คุยๆ ละก็เลิก เป็นอยู่แบบนี้ตลอด (แต่ตอนนี้มันมีแฟนแล้วนะ รักกันดีเว่อร์) คือความรู้สึกของคนที่คุยๆ กันมันจะไม่ชัดเจนและมันค่อนข้างน่าอึดอัด จะไปอะไรกับเค้ามากก็ไม่ได้ จะคิดยังไงก็ตอบตัวเองไม่ได้เลย แต่ไปไหนทำไรก็คือคุยกันรายงานกันตลอด พอเลิกคุยก็ง่ายๆ แบบเหมือนไม่ได้คิดอะไรกัน เพื่อนเราเลยเสียใจบ่อยๆ เพราะเรื่องนี้

เอาจริงเราคิดว่าเทคโนโลยีมันทันสมัยมากขึ้นด้วย คนพบกันง่ายขึ้น คุยกันง่ายขึ้น อยากคุยกับใครก็ขอไลน์ ทักไอจีกันได้เลยแบบอิสระ มันเลยทำให้คนรู้สึกหวั่นไหวและรักไวและง่ายขึ้นมาก คืออีกฝ่ายไม่ต้องมานั่งเสียเวลาทำให้เขาประทับใจไร แค่พิมบางประโยคที่มันจี๊ดใจ อีกฝ่ายประทับใจ ก็หวั่นไหวกันแล้ว หรือบางทีอีกฝ่ายอาจจะพิมพ์ไปโดยธรรมชาติไม่ทันได้คิดไรเลย แค่พูดไปตามปกติ ฝั่งที่รู้สึกมากกว่าก็คิดไปเองไกลแล้ว

บางทีอีกฝ่ายอาจแค่พูดไปตามปกติ
ฝั่งที่รู้สึกมากกว่าก็คิดไปเองไกลแล้ว

ตอนที่ทำเพลงนี้กับพี่โอ๊ป พี่เอก พี่ยักษ์ เราก็ถ่มถุย(แปลว่า พูดๆมาก่อน จดๆไว้ อันไหนจี๊ดก็เก็บไว้เลย) ประโยคที่คนที่เกิดความรู้สึกแบบนี้มักจะมีคำถาม ซึ่งทุกประโยคมันสามารถเป็นคำถามที่แทงใจได้เลยอะ และมันดีมากมาก ที่พี่ๆ เอาทุกประโยคที่เราถ่มถุยกันมาใส่เพลงได้หมดทุกประโยคเลยเช่น ‘บางวันก็เหมือนว่าฉันนั้นมีเธออยู่ แต่ในบางวันก็เหมือนไม่มี’ หรือ ‘อยากจะรู้เวลาดีดีที่ผ่านมาจริงใช่มั้ย?’ เราชอบประโยคนี้มาก ขนาดไม่อินกับเรื่องนี้ เรายังรู้สึกเจ็บจี๊ดๆ เหมือนเพลงกำลังบอกเราว่า เอ๊ะ เรื่องที่ผ่านมามันจริงป่าวนะหรือทั้งหมดเราคิดไปเองหมดเลย ส่วนพาร์ทดนตรีพี่โอ๊ปก็จัดเต็มฟังแล้วลื่นหูอีกเหมือนเดิมเลย

มาถึงพาร์ทเอ็มวี มันก็คือความสนุกของการเล่าเรื่องแบบพี่คงเดช เราอยากทำเอ็มวีที่มันมีการเล่าเรื่องที่ต่างออกไป ชอบอ่านคอมเม้นท์ต่างๆ ที่เค้ามานั่งตีความเอ็มวีเรากันในยูทูบมากๆ บางคนตีความเก่งมาก เก่งกว่าเราอีกอะ บางอันเรายังไม่ได้คิดเลย ซึ่งดีมาก เพราะเราชอบที่ใครจะตีความยังไงก็ได้ สนุกดี แต่ตอนถ่ายก็แอบโหด เราต้องแสดงจากที่ไม่ได้ทำการแสดงอะไรเลยมาสองปีแล้วอะ ฮ่าๆ ตอนนั้นก็เครียดอยู่นะ กลัวทำไม่ได้ แต่สุดท้ายก็ทำได้ตามที่คิดไว้ ต้องขอบคุณครูร่มที่สอนมาดี ฮ่าๆ

ถ้าทุกคนอ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ก็คงได้รู้จักเพลงนี้มากขึ้นแล้ว เราอยากให้ลองเปิดใจ ตอนนี้มีวงใหม่ๆ ศิลปินใหม่ๆ เกิดขึ้นมาเยอะมาก ซึ่งเราชอบมาก เราอยากให้ทุกคนลองเปิดใจฟังเพลงเยอะๆ ไม่ใช่แค่เพลงของเราแต่รวมถึงหลายๆ คนด้วย บางทีเราอาจจะได้เจออะไรใหม่ๆ แค่ลองเปิดใจฟังก่อน เราเชื่อว่าทุกๆ งานที่เราเห็นผ่านความตั้งใจแบบนี้กันมาทั้งนั้น สำหรับเพลงนี้เราและพี่ๆ ทุกคนก็ตั้งใจมากเช่นกัน ตอนนี้ก็สามารถดูเอ็มวีและฟังเพลงได้ทุกช่องทางแล้วด้วย ซึ่งเพลงนี้หลายๆ คนอาจจะไม่ได้อินกับเนื้อหาก็ได้แต่เราก็ยังอยากให้เปิดใจฟังกันดูนะ ส่วนถ้าใครอินก็มาเล่ามาคอมเม้นท์คุยกัน หรือจะแชร์ให้อีกฝ่ายนึงรู้ไปเลยก็ได้

รักกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

Scroll to Top