เรื่องเศร้าไม่รู้จบ ตอน..วันที่หัวใจเคลื่อนไหว
การรักใครข้างเดียว เป็นสิ่งลึกลับที่อธิบายเหตุผลไม่ได้
ตามหลักเหตุผลแล้วมันเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ
มันเสียเวลา มันไปรบกวนเค้า ไปทำให้เค้ารำคาญ
ผมเชื่อว่าทุกคนน่าจะเคยแอบรักใครข้างเดียว
ยิ่งถ้าเป็นการแอบรักแบบไม่ได้บอก
เก็บไว้ในใจคนเดียว ไม่ให้เค้ารู้
เป็นสิทธิเต็มร้อย ที่หัวใจเราสามารถทำได้
อาจเป็นเพราะเรารู้อยู่ในใจลึกๆ
ว่าถ้าบอกออกไป คงมีแต่เสียใจ
ถ้าเค้ารู้เค้าคงระคายเคืองใจ
เก็บไว้ฝันเงียบๆคนเดียวดีกว่า
จริงๆอาการแบบนี้จะเรียกว่าแอบรักก็ไม่ถูกนัก
น่าจะเรียกว่าแอบชอบมากกว่า
เพราะความรักมันก่อเกิดในจุดที่ลึกกว่านั้น
มันต้องการการเรียนรู้กันและกัน
ต้องลองคบกันดู
เปิดเผยส่วนดีและเสียของทั้งสองฝ่ายออกมา
เกิดความผูกพันบางอย่างท่ามกลางความจริง
ถึงจะบอกตัวเองได้ว่าเรารักคนนี้
แต่ความรู้สึกของการแอบชอบคนอื่นข้างเดียว
มันอยู่ในเขตแดนของความฝันมากกว่าความจริง
เราสามารถแอบชอบใครสักคนได้ยาวนาน
นานจนเท่าช่วงชีวิตนึงเลยก็ยังได้
แต่ถ้าเรารักจริงๆ สุดท้ายแล้วมันต้องบอกออกไป
เพราะความรักต้องยืนอยู่ในโลกความจริงได้ด้วย
แต่ผมไม่กล้าฟันธงอะไรมากหรอก
เพราะหลายครั้งความรักก็ไม่เคยมีหลักการ
เราอาจจะแน่ใจว่าเรารักใครสักคน
โดยที่ยังไม่ต้องลองไปคบกันดูก็ได้
อะไรบางอย่างที่อยู่เหนือเหตุผล
ก็มาทำให้เรารู้สีกอย่างรุนแรง
ว่าเราขาดคนคนนี้ไปไม่ได้
แม้ว่าเค้าจะยังไม่ได้รักเราเลยก็ตาม
ถ้าเป็นกรณีนี้ เราจะอึดอัดมากขึ้นเรื่อยๆ
ยิ่งเก็บไว้ในใจยากขึ้นทุกที
สุดท้ายมันต้องบอกออกไป
แม้คำตอบจะทำให้เราต้องผิดหวังก็ตาม
เพลงนี้คือเพลงของคนที่ไม่ได้แอบรักเงียบๆ
แต่รักมากจนต้องบอกออกไป
และถึงแม้จะโดนปฏิเสธกลับมา
ก็ยังรักมาก จนไม่ยอมหันหลังจากไป
แน่ใจมากว่าความรักนี้จะทำให้เขามีความสุข
เพียงแค่เขายังมองไม่เห็นเท่านั้นเอง
ย้อนมองกลับไปถึงตอนที่ทำเพลงนี้
มันเป็นเพลงที่แต่งยากมากๆเพลงนึง
ผมมีความรู้สึกอยู่ในใจ มีภาพชัดเจน
แต่หาวิธีถ่ายทอดมันออกมาเป็นเพลงไม่ได้
แปลงสารเท่าไหร่ก็ไม่ตรงกับภาพในหัวเสียที
แถมกำหนดส่งเพลงก็ใกล้เข้ามามากแล้ว
เพลงนี้เป็นเพลงที่เสร็จเป็นเพลงสุดท้ายในอัลบั้มลวงตา
เพราะผมแต่งมันไม่ออก
จนถึงขั้นถอดใจ ไปขอให้เพื่อนช่วย
ก็คือคุณวิภว์ บรรณาธิการ Happening
ผู้เขียนเพลง หากฉันเป็นหนังสือ
กลางวันตื่นกลางคืนฝัน
ก็พยายามบอกเล่าให้วิภว์ฟัง ว่าอยากเล่าอะไร
วิภว์ก็หายไป3วัน แล้วเขียนเนื้อกลับมา
ปรากฏว่ามันก็ยังไม่ตรงซะทีเดียว
ผมกำลังจะยอม และใช้เนื้อของวิภว์
ถึงมันจะไม่ตรง แต่มันก็ใกล้เคียงมากแล้ว
ไม่น่าเชื่อ สุดท้ายมันก็มา
เนื้อเพลงที่อยู่ๆก็ไหลเข้ามาในหัว
แบ่งท่อนการเล่าเรื่องอย่างมีสมมาตร
เหมือนเดิมอย่างนั้น เหมือนเดิมอย่างนี้
หันมองกลับมา ยอมหันจากไป
ผมพยายามเขียนอยู่เกือบเดือน ไม่สำเร็จ
สุดท้ายภายใน15นาทีนั้นเอง
ที่ผมเรียบเรียงออกมาได้ครบเพลง
แล้วมันก็ตรงกับสิ่งที่ต้องการแบบคำต่อคำ
การรักใครข้างเดียวแล้วบอกให้เค้ารู้
ส่วนใหญ่จะจบเร็ว คือไม่แพ้ก็ชนะไปเลย
ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะแพ้แหละ
แต่จะมีบางคนที่แพ้แล้วยังไม่ยอม
ยังไม่ถอย ยังไม่ถอนใจออกมา
ตราบใดที่ยังมีพื้นที่ให้รอ
ก็จะปักหลักรออยู่ตรงนั้น
จนกว่าเขาจะยอมแพ้เรา
หรือเราจะยอมแพ้ไปเอง
มันมีเส้นบางๆกั้นระหว่างความแน่วแน่กับความดื้อด้าน
ระหว่างความมั่นใจกับความมโน
ระหว่างความรักจริงกับความต้องการเอาชนะ
ผมคงไม่สามารถแนะนำใครได้
ว่าถ้าอยู่ในสถานการณ์นี้ต้องทำอย่างไร
ควรยอมรับความจริงแล้วถอยออกมา
หรือควรดื้อต่อไปเพื่อรอปาฏิหารย์
ใครจะไปกล้าบอกว่าปาฏิหารย์จะไม่มีทางเกิด
มันจึงอยู่ที่เราล้วนๆ ว่าเรายอมรับผลที่ตามมาได้ไหม
ถ้าคิดว่าคุ้ม ก็ไม่ต้องรีรอ ก็ลุยไป
แต่ถ้าเหนื่อยแล้ว ก็เดินออกมา
หรือถ้ามันเริ่มทำให้เค้ารำคาญแล้ว
ก็ไม่ควรหลอกตัวเองต่อไป
ผมเขียนเพลงนี้จากประสบการณ์ตรง
เขียนจากความรู้สึกจริงๆ
และไม่เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
บอกตัวเองได้ว่าทำดีที่สุดแล้ว
แม้สุดท้าย ผมจะเป็นฝ่ายแพ้
แต่ผมก็ได้เพลงนี้มาให้คุณฟังไง