ช่วงสุดสัปดาห์พวกคุณทำอะไรกันบ้าง?
นอนบำบัดอาการแฮงค์จากการสังสรรค์เมื่อคืน มุ่งหน้าเข้าเมืองเพื่อหาร้านกาแฟชั้นดีจิบระหว่างรอหนังฉาย เอ๊ะ!! หรือว่าจะยังนั่งเคลียร์งานอยู่ที่ออฟฟิศกันนะ
ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตาม เราอยากบอกว่าขณะนี้มีหนุ่มสาวอีกกลุ่มหนึ่งตื่นแต่เช้าเพื่อมุ่งหน้าไปที่สตูดิโอ เพื่อไปเวิร์คช็อปกัน
– – –
หนุ่มหน้าใสที่ค่อยๆ ระบายสีพู่กันบนกระดาษ สาวที่มอมแมมจากการจัดการกับเซรามิกกองโต สีหน้า และแววตาของพวกเขาช่างมีความสุข พวกเขาบอกว่า กิจกรรมเหล่านี้ทำให้โลกหมุนช้าลง และการได้ใช้สองมือสัมผัสสิ่งที่นอกเหนือจากหน้าจอโทรศัพท์ มันช่วยเติมเต็มชีวิตที่ขาดหายไป แม้แต่ สตีฟ จอบส์ หรือแลร์รี เพจ ก็ยังไม่สามารถให้แก่พวกเขาได้
นอกจากเติมเต็มข้างในใจแล้ว มันยังทำให้พวกเขามีสภาพคล่องทางการเงินมากขึ้น เพราะมันได้นำมาซึ่งทักษะใหม่ๆ และโอกาสในการสร้างธุรกิจใหม่ๆ หากคุณมีเวลาสักวันหรือครึ่งวัน ลองเลือกเวิร์กช็อปที่สนใจและไปลองดู แล้วจะพบว่า การได้ออฟไลน์จากโลกโซเชียล มาสู่กิจกรรมที่ใช้สองมือสร้างสรรค์นั้นมันดีต่อใจจริงๆ
Why Art & Craftsmanship?
เวิร์คช็อปเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะเปิดรับบุคคลทั่วไปที่ไม่เคยมีทักษะหรือประสบการณ์มาก่อน โดยจะมีค่าใช้จ่าย โดยเฉลี่ยอยู่ทีหนึ่งพันบาทไปจนถึงสามพันบาท บางคนหลังจากเรียนรู้แล้วสามารถนำทักษะไปสร้างธุรกิจของตัวเองได้ แต่บางคนสมัครใจที่จะจ่ายเพื่อความสุขของการได้ร่วมกิจกรรม
– งานอดิเรกเหล่านี้ทำให้เราได้กลับเชื่อมโยงกับสิ่งของรอบๆ ตัว ได้หยิบ จับ สัมผัส และสร้างสรรค์โดยใช้สองมือ ซึ่งเป็นกิจกรรมพื้นฐานของมนุษย์ แต่เทคโนโลยีก็ทำให้เราห่างเหินจากกิจกรรมเหล่านี้ไป
– การใช้เวลาร่วมกันของเพื่อน คู่รัก คนในครอบครัว หรือมิตรภาพใหม่ๆ ที่เกิดท่ามกลางกลุ่มระหว่างเวิร์คช็อป
– คุณค่าของการสร้างสรรค์ผลงานด้วยตัวเอง ที่เงินไม่สามารถซื้อหามาได้ ถึงแม้คุณค่านี้จะขึ้นอยู่กับเฉพาะตัวบุคคล แต่เชื่อเถอะว่า การได้ดื่มกาแฟจากแก้วที่คุณปั้นขึ้นมากับมือมันเป็นอะไรที่พิเศษจริงๆ นะ
Art & Craftsmanship Phenomenon
– ในสหรัฐอเมริกาหรือในกลุ่มประเทศยุโรป มีวัฒนธรรมของการจัดเวิร์กช็อปมาอย่างยาวนาน มีดีไซเนอร์ที่สนใจในงานคราฟท์อยู่มาก จนรวมตัวกันเป็นชุมชนของศิลปินที่เข้มแข็ง และสามารถหารายได้จากการทำผลงานได้ ผลงานส่วนใหญ่นิยมนำไปขายตามตลาดขายของวินเทจ หรือพวกฟลีมาร์เก็ต
– ญี่ปุ่น ก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่เราอยากยกตำแหน่งเจ้าพ่องานฝีมือ และงาน DIY ให้ แม้แต่คนทำถ้วยชาม ยังถูกยกย่องให้เป็นอาจารย์ สามารถปั้นถ้วยชามมาวางขายและเปิดสอนให้ลูกศิษย์อย่างเป็นล่ำเป็นสัน
– สำหรับในประเทศไทยนั้น แม้ว่าวัฒนธรรมของงานศิลปะหรืองานฝีมือยังไม่เข้มแข็ง แต่เทรนด์ของการทำเวิร์คช็อปที่กำลังเป็นที่นิยมเรื่อยๆ เหล่านี้ก็มีส่วนทำให้งานสร้างสรรค์เหล่านี้ได้รับการยกระดับให้มีคุณค่ามากขึ้น
(1) Art & Craftsmanship Spaces
Craft Fig.
สตูดิโอขนาดย่อมๆ ย่านลาดพร้าว ที่จัดเวิร์คช็อปอย่างต่อเนื่อง สามารถเลือกได้ทั้งแบบระยะสั้นและระยะยาว แถมยังมีหลากหลายคลาส เช่นคลาสสอนวิธีใช้สีน้ำในการสร้างสรรค์ ศิลปะจากการพับ ตัด ฉลุกระดาษ รวมถึงงานออกแบบตัวอักษรอย่างสร้างสรรค์
เราคิดว่า Craft Fig. โดดเด่นตรงที่มีรูปแบบของเวิร์คช็อปที่หลากหลาย และสอนโดยผู้มีประสบการณ์การทำงานและมีชื่อเสียงในวงการ ที่สตูดิโอยังมีทางเลือกให้สำหรับผู้ที่สนใจงานออกแบบโดยคอมพิวเตอร์ อย่างเช่นภาพประกอบ เว็บดีไซน์ หรืองานออกแบบคาแรกเตอร์
สำหรับคลาสที่เราอยากแนะนำให้กับคนอ่าน โดยเฉพาะคนที่ชื่นชอบซูชิก็คือ คลาสวาดภาพสีน้ำตีม Sushi ที่สอนโดยนักวาดภาพประกอบชื่อดัง “ซ่อนแอบ – Hide&Seek” โดยจะสอนใช้สีน้ำสร้างสรรค์ซูชิหน้าต่างๆ น่ารักและน่ากินมากๆ หลักสูตรเวิร์คช็อปหนึ่งวัน ผู้ไม่มีพื้นฐานมาก่อนก็สามารถเรียนได้
ภาพจาก: Craft Fig. และ ซ่อนแอบ – Hide&Seek
(2) Tentacles N22
ศูนย์การเรียนรู้ ย่านทวีวัฒนา เน้นทางศิลปะและงานฝีมือ ที่สับเปลี่ยนรูปแบบของคลาสกันไป โดยจะคัดเลือกเวิร์คช็อปใหม่ๆ ทุกเดือนเพื่อให้ทุกคนได้เรียนรู้เทคนิค วิธีคิด และแรงบันดาลใจใหม่ๆ
ตัวอย่างเวิร์คช็อปที่น่าสนใจที่ทาง Tentacle N22 เคยจัดมาได้แก่ เวิร์คช็อปทำเซรามิกเพื่อชุดอาหารเช้า ที่ให้คุณสามารถทำชุดจานชามสำหรับทานอาหารเช้าด้วยตัวเอง และงานศิลปะจากโลหะ
รวมถึงเวิร์คช็อปทำหนังสือทำมือ (Zine) Movable Zine Workshop สอนทำหนังสือ โดยไม่ต้องเย็บ เพียงนำอุปกรณ์เครื่องเขียนที่มีอยู่แล้วก็สามารถสร้างซีนที่ไม่เหมือนใครได้ ทำเสร็จแล้วยังได้จัดแสดงอยู่ที่ Tentacles Gallery อีกด้วย
สำหรับคนในแวดวงศิลปะที่อยากเรียนรู้ทักษะภาษาอังกฤษ ที่นี่ยังมีคลาสสอนภาษาอังกฤษเพื่อให้คนทำงานศิลปะนำไปใช้งานได้ด้วย ฯลฯ
ภาพจาก: Tentacle N22
(3) Pianissimo Press
สตูดิโอที่ปกติจะเปิดขายงานเล็ทเตอร์เพรส ตั้งอยู่ย่านทองหล่อ รับทำภาพประกอบและเคยได้ออกแบบภาพประกอบให้กับหนังสือวรรณกรรมชื่อดัง การันตีเรื่องฝีมือและความประณีต
ส่วนที่เราอยากแนะนำให้กับคนอ่านก็คือ เวิร์คช็อปการพิมพ์เล็ทเตอร์เพรส ที่จะจัดเป็นช่วงๆ ติดตามรายละเอียดทางเพจเฟสบุ๊ค
ผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้หลักการและความเป็นมาของเล็ทเตอร์เพรส ทดลองพิมพ์จากแม่พิมพ์ชนิดต่างๆ ด้วยเครื่องพิมพ์ตั้งโต๊ะแบบใช้มือโยก แน่นอนว่า ผลงานใครก็เก็บกลับบ้านกันไปเลย
ภาพจาก: Pianissimo Press
(4) HUBBA-TO
Craftmanship Space ย่านอ่อนนุช ที่เปิดพื้นที่ให้กับทุกๆ คนได้เข้าไปเรียนรู้การทำศิลปะต่างๆ ภายใต้คำจำกัดความว่า งานทำมือ
นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่สำหรับให้ศิลปินได้ใช้สตูดิโอทำงาน และเปิดสอนให้กับบุคคลทั่วไป กิจกรรมที่ HUBBA-TO มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น งานเซรามิก, 3D Printing, ล้างฟิล์มในห้องมืด และสกรีนลายเสื้อ แถมยังมีห้องครัวไว้เปิดสอนทำอาหารให้กับผู้ที่สนใจ
นอกจากนี้พื้นที่ของโครงการฮับบ้าโตะยังมีโซนร้านกาแฟ รวมถึงCo-Working Space เรียกได้ว่า เป็นสถานที่ที่ครบวงจรที่สุด
ภาพจาก: HUBBA-TO
(5) Dandelion
คาเฟ่ที่เสิร์ฟทั้งเบเกอรี่และกาแฟ ตั้งริมถนนใหญ่สุขุมวิท เดินทางได้สะดวกสบาย
นอกจากขึ้นชื่อในเรื่องรสชาติความอร่อยและความสวยงามของทุกๆ เมนู Dandelion ยังขึ้นชื่อในฝีมือการจัดปาร์ตี้ต่างๆ เช่นปาร์ตี้น้ำชา ปาร์ตี้วันเกิดแบบไพรเวท และปาร์ตี้สไตล์ Backyard Catering ที่จำลองอารมณ์และบรรยากาศได้พิเศษกว่าร้านอาหารทั่วๆ ไป
สิ่งที่เราอยากแนะนำให้กับผู้อ่านมากที่สนใจเวิร์คช็อปก็คือ คลาสสอนทำเบเกอรี่ ที่มีให้เลือกหลายหลายชนิดตามความสนใจ ทางร้านได้ถ่ายทอดเคล็ดลับการทำขนมอร่อยๆ ให้มีหน้าตาพิเศษสุดๆ อย่างเช่น Galaxy & Gem Rocks Workshopโดยจะเปิดเป็นบางช่วงเท่านั้น เพราะฉะนั้นต้องติดตามหน้าเพจให้ดีๆ เชียว
ภาพจาก: Dandelion