ทำความรู้จักกับ wish. ศิลปินดูโอ้หนุ่มที่มีความอินดี้แอบแฝงอยู่ในบทเพลง ประกอบไปด้วย มิก-นนท์ปวิธ ทาสะโก (ร้องนำ) และ ไอซ์-กรณัท จันทราอุกฤษฎ์ (คีย์บอร์ด)
ซึ่งเอกลักษณ์สิ่งหนึ่งของพวกเขาคือเพลงที่ปล่อยออกมานั้น จะเป็นไปตามความรู้สึกต่างๆของช่วงเวลานั้น และการนำประโยคยาวๆมาตั้งเป็นชื่อเพลง วันนี้เรามาพูดคุยและทำความรู้จักกับพวกเขาให้มากขึ้นกัน
คุยกับ wish. เจ้าของบทเพลงที่หลายคนอาจจะเคยได้ยิน เช่น เลิกซ่อนเขาไว้ในเพลง, อยากอยู่ในสตอรี่แก และล่าสุดพวกเขาได้ปล่อยซิงเกิลเสิร์ฟความเศร้าอย่าง “ตัดใจรอบที่ล้าน” วันนี้เรามาพูดคุยและทำความรู้จักกับพวกเขาให้มากขึ้นกัน
wish. (ต้องมีจุด) ชื่อนี้มาได้ยังไง ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหม
มิก : ตอนทำวงแรกๆเป็นช่วงปลายปีครับ (เทศกาลคริสต์มาส) เราเห็นคำว่า Make a wish ความหมาย คือ ให้อธิษฐานสิ ผมว่ามันเป็นประโยคที่น่ารักและเป็นมงคลดี ส่วนเหตุผลที่ต้องมีจุด คือผมรู้สึกอยากให้มี symbolic เล็ก ๆ น้อยๆ เลยใส่จุดไปให้เหมือนเป็นการจบประโยค
ไอซ์ : ตอนนั้นก็รู้สึกว่าเราต้องขอพร ขอพรให้วงดัง แค่นั้นแหละตอนแรก (ขำ)
wish. นิยามเพลงตัวเองว่าเป็นแนวเพลงแบบไหน ?
มิก : ไม่เคยนิยามเลยครับว่าเป็นแนวไหน ผมไม่เคยเชื่อเลยว่าเพลงสมัยนี้ มันเป็นแนวใดแนวหนึ่ง ทุกเพลงผ่านการผสมผสานจากหลายๆแนวทั้งนั้น ไม่ได้เป็น ออริจินัลขนาดนั้นแล้ว แต่ให้ผมนิยามแนวของตัวเองจริงๆ ผมคิดว่าเป็น อินดี้ป็อปครับ
ไอซ์ : ผมว่าไม่แน่นอนนะ วงเราทำอะไรที่ตอนนั้นคิดได้แล้วก็ทำเลย แต่ก็อยู่ในโทนๆเดียวกันนะ
มิก : เท่าที่ผ่านมา ผมสัมผัสได้ว่ากลิ่นที่อยู่ในทุกเพลงของเรา คือ ความวินเทจ เอาความย้อนยุคมาใส่ในดนตรี ความ 90’s นี่มีอยู่ทุกเพลงของเราจริง ๆ ครับ
ทำไมถึงได้ไอเดียการตั้งชื่อเพลงแบบแปลก ๆ แถมชื่อเพลงค่อนข้างยาว ช่วยเล่าให้ฟังหน่อย
มิก : เวลาแต่งเพลง ผมจะคิดคอนเซ็ปต์เพลงก่อน แล้วค่อยมาแต่งเนื้อเพลง พอถึงขั้นตอนที่ต้องคิดชื่อเพลง เราก็คิดว่าคอนเซ็ปต์นี้ ก็โอเคอยู่แล้วนะ เลยเอาคอนเซ็ปต์มาตั้งเป็นชื่อเพลงครับ ส่วนเรื่องชื่อเพลงที่ยาว เราไม่ได้ตั้งใจให้ยาวทุกเพลงครับ บางเพลงที่ยาวเราก็ไม่รู้จะตัดให้สั้นยังไง ก็เลยเอามาทั้งหมดให้รู้เรื่องไปเลย เน้นรู้เรื่อง (ขำ)
ช่วยเล่าถึงซิงเกิลใหม่ล่าสุด “ตัดใจรอบที่ล้าน” ให้ฟังหน่อย เพลงนี้เป็นมายังไง
มิก : คอนเซ็ปต์เพลงนี้เป็น ป็อปยุค 2000’s เราเริ่มจากทำดนตรีขึ้นมาก่อน ทำจนตัวเองชอบ ฟังวนซ้ำไปมา จนรู้สึกอยากเปิดฟังอีกเรื่อยๆ พอชอบแล้ว ถึงจะไปต่อที่พาร์ทของเนื้อเพลง
ไอซ์ : ส่วนของเนื้อเพลง พวกเราได้มาจากตอนที่เห็นโพสต์ๆนึง เป็นแคปชั่นในเชิงคลั่งรัก และมีคนแชร์ต่อกันเยอะๆในโซเชียล เราก็เลยมาคิดอีกมุมนึง ในมุมของคนที่เฮิร์ทครับ ซึ่งขั้นตอนการทำเพลงส่วนใหญ่แล้ว มิกจะทำครึ่งหนึ่งแล้วส่งมาให้ผมทำต่อ ความยากเกิดขึ้นตอนที่เราต้องคิดว่าจะใส่อะไรเข้าไปดี ทำยังไงให้เพลงไม่น่าเบื่อ แต่ยังมีความเป็นตัวเอง
มิก : เราแก้กันประมาณนึง พวกเรามีความคิดเหมือนกัน คือ เพลงไหนที่เราทำแล้วเราต้องปล่อยทุกเพลง ดีหรือไม่ดีให้คนฟังตัดสินเอง
ไอซ์ : ใช่ครับ ถ้าเพลงไหนมีการตอบรับไม่ดี เราก็จะเก็บมาปรับปรุง ทำให้ดีขึ้นกว่าเดิมครับ
แล้วถ้าเป็น wish. ที่ตกอยู่ในสถานการณ์แบบเดียวกันกับในเพลง คิดว่าจะตัดใจสักกี่รอบถึงจะสำเร็จได้
มิก : ไม่เกิน 3 รอบ เพราะเรามองว่า เอาเวลาไปมูฟออนดีกว่าครับ ถ้าคนจะใช่ ก็คงใช่ตั้งแต่แรก คงไม่ต้องมาตัดใจอะไรบ่อยๆ
ไอซ์ : กี่รอบก็ได้ครับ เราต้องทำให้สุดจนกว่าเราจะเหนื่อยไปเอง
อยากบอกอะไรกับคนที่ยังตัดใจไม่ได้
มิก : เราเข้าใจการที่อยากจะมูฟออนแต่ยังทำไม่ได้นะครับ แต่สุดท้ายแล้ว วันนึงเราจะตัดใจได้จริงๆ ไม่ว่าจะต้องตัดใจอีกสักกี่ล้านรอบก็ตาม
ไอซ์ : อยากให้เชื่อใจตัวเอง เชื่อในสิ่งที่เราคิด ถ้าตัดก็ต้องตัดจริงๆ หรือถ้ายังเลือกที่จะเสียใจต่อ เราก็ต้องยอมรับการตัดสินใจของเรา
มองอนาคตของ wish. เป็นยังไง สุดท้ายให้ฝากอะไรก็ได้ถึงแฟนเพลง
มิก : เป็นวงที่ทำเพลงอยู่เรื่อยๆ และโตขึ้นเรื่อยๆ ให้เพลงเราไปถึงคนฟังครับ
ไอซ์ : เรารู้สึกดีใจที่เพลงของเรา บางครั้งไปเป็นตัวแทนของความรู้สึกเขาได้ เราเลยอยากที่จะทำเพลงต่อไปอยู่เรื่อยๆครับ แอบอยากมี Fan Meeting เล็ก ๆ เหมือนกันครับ
มิก : ถึงตอนนี้ยังไม่มี Fan Meeting แต่พวกเรามี LINE OpenChat กันด้วยนะครับ เข้ามาพูดคุยกันได้ มี Qr code อยู่ใน Instagram พวกเราตอบกันเองเลยครับมาจอยกันได้นะ
Fun Fact
ถ้าต้องเลือกอุปกรณ์ในร้านทำผม (ยกเว้นกรรไกร) จะใช้อะไรตัดใจ เลือกมา 1 อย่าง
มิก : ปัตตาเลี่ยนครับ ไถเลย หมดไวดี
ไอซ์ : มีดโกน ไม่ต้องตัด โกนไปเลยครับไม่ให้เหลือซาก
ถ้าจะต้องตัดอะไรสักอย่างนึงออกไปจากชีวิต จะเลือกตัดอะไรออกไป
มิก : ตัดความทรงจำเก่าๆ คนเก่าๆ เราจะได้ลืมเขาได้ครับ
ไอซ์ : ตัดคู่แข่งด้านความรักครับ
